รุ่นที่ 2 (พ.ศ. 2555 - ปัจจุบัน) ของ นิสสัน_โน้ต

Motor vehicle
รุ่นที่ 2 (E12)
ภาพรวม
เรียกอีกชื่อนิสสัน เวอร์ซ่า โน้ต (อเมริกาเหนือ)
เริ่มผลิตเมื่อ
  • สิงหาคม 2555 – ปัจจุบัน
  • 2555–2560 (United Kingdom)
  • 2560–ปัจจุบัน (Thailand)
  • 2556–2562 (Mexico)
  • 2555–2563 (Japan)
แหล่งผลิต
ตัวถังและช่วงล่าง
รูปแบบตัวถัง5 ประตู แฮทช์แบ็ก
แพลตฟอร์มNissan V platform
ระบบส่งกำลัง
เครื่องยนต์1.2 L HR12DE I3
1.2 L HR12DE e-Power I3 (Hybrid Engine)
1.2 L HR12DDR I3
1.6 L HR16DE I4 (อเมริกา)
1.5 L K9K dCi (ยุโรป)
ระบบเกียร์Xtronic CVT
ธรรมดา 5 จังหวะ
ระบบขับเคลื่อนรถไฮบริดไฮบริดแบบอนุกรม (Note e-Power)
มิติ
ระยะฐานล้อ2,600 mm (102.4 in)
ความยาว4,100 mm (161.4 in)
ความกว้าง1,695 mm (66.7 in)
ความสูง1,525 mm (60.0 in)(FF)
1,535 mm (60.4 in)(4WD)
ระยะเหตุการณ์
รุ่นก่อนหน้านิสสัน ทีด้า (Japan)
นิสสัน เวอร์ซา hatchback (North America)
นิสสัน ลิวิน่า (Asia)
Nissan Almera (Europe)
รุ่นต่อไปนิสสัน ไมคร่า (ยุโรป)
นิสสัน คิกส์ / Nissan Versa (N18) (อเมริกาเหนือ)

นิสสัน โน้ต รุ่นที่ 2 ได้เปิดตัวในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรก โดยเส้นสายการออกแบบมาจากคอนเซปต์ของ Nissan INVITATION โดยในช่วงแรก นิสสัน โน้ต ยังไม่มีการวางจำหน่ายในประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2559 นิสสัน โน้ต ได้มีการปรับโฉมใหม่ในประเทศญี่ปุ่น และนำรุ่นปรับโฉมเข้ามาวางจำหน่ายในประเทศไทยภายหลัง ในปี พ.ศ. 2560 ซึ่งเป็นครั้งแรกที่นิสสัน โน้ตได้เปิดตัวในประเทศไทย

สำหรับในประเทศไทย นิสสัน โน้ต ได้เข้าร่วมโครงการ อีโคคาร์ (เฟส 1) โดยใช้เครื่องยนต์ HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 79 แรงม้า เช่นเดียวกับนิสสัน อัลเมร่า และนิสสัน มาร์ช โดยนิสสัน โน้ต จะเจาะตลาดบนสำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ระหว่างเมือง แต่นิสสัน มาร์ช จะเจาะตลาดสำหรับกลุ่มผู้ขับขี่รถยนต์ในเมือง

นิสสัน โน้ต ได้มีเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ามากกว่าคู่แข่งคือระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Intelligent Mobility Driving Technology พร้อมกับถุงลมนิรภัยคู่หน้า/ABS/EBD/BA/VDC/HSA/ระบบตรวจจับและส่งสัญญาณเตือนวัตถุรอบคันรถ (เฉพาะรุ่น VL)

นิสสัน โน้ต ในประเทศไทย ได้แบ่งรุ่นย่อยออกเป็น 2 รุ่น ดังนี้

  • 1.2 V ราคา 568,000 บาท
  • 1.2 VL ราคา 640,000 บาท

Nissan Note e-Power

รุ่นแรกของ Nissan ในประเทศไทยที่จะได้ใช้เทคโนโลยี e-Power คาดว่าจะเป็น NOTE e-Power !

แผนการเปิดตัวในครั้งนี้ตอกย้ำกลยุทธ์ด้านยานยนต์ระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า และ ความมุ่งมั่นของ Nissan ในการใช้เทคโนโลยี e-Power และ ยานยนต์ไฟฟ้า เพื่อนำประเทศไทย ไปสู่อนาคต และ สิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้น เนื่องจากความกังวลเรื่องสภาพอากาศ และ สิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้น นวัตกรรมอย่าง e-Power และ รถยนต์ไฟฟ้า EV อย่าง Nissan LEAF จึงเป็นทางออกสู่โลกแห่งอนาคตที่ชาญฉลาด, สะอาด และ ยั่งยืน ทั้งนี้ยังมีราคาที่เข้าถึงได้อีกด้วย อันตวน บาร์เตสกล่าวเสริมว่า Nissan กำลังพัฒนากลยุทธ์ยานยนต์ระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง

เครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ รหัส HR12DE ขนาด 1.2 ลิตร 1,198 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 78.0 x 83.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 12.0 : 1 กำลังสูงสุด 79 แรงม้า ที่ 5,400 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 103 นิวตันเมตร ที่ 4,400 รอบ/นาที ทำหน้าที่ปั่นไฟไปเก็บยังแบตเตอรี่ (เครื่องยนต์ไม่มีหน้าที่ขับเคลื่อนส่งพละกำลังลงสู่ล้อ)

เพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานให้มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 High Power พละกำลังสูงสุด 109 แรงม้า ที่ 3,008 – 10,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 254 นิวตันเมตร ที่ 0 – 3,008 รอบ/นาที

เทคโนโลยี e-Power คือระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่มีพละกำลังสูงแบบเดียวกับรถไฟฟ้า EV โดยนำเทคโนโลยีรถไฟฟ้าจาก Nissan Leaf มาประยุกต์กับเครื่องยนต์เบนซินขนาดเล็กติดตั้งเครื่องยนต์สันดาปที่ไม่เชื่อมต่อกับล้อ เครื่องยนต์ใช้สำหรับปั่นไฟฟ้าลงสู่แบตเตอรี่ แตกต่างจากรถ Hybrid ทั่วไปที่ใช้เครื่องยนต์ส่งพละกำลังลงสู่ล้อด้วย

พูดง่ายๆก็คือ ” เครื่องยนต์เสมือนทำงานในรอบเดินเบา ทำหน้าที่ปั่นไฟเก็บเข้าแบตเตอรี่อย่างเดียว ตัวรถจะถูกขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า แต่เดิมน้ำมันได้แบบรถปกติทั่วไป “

ช่วงที่ผ่านมา อาจมีข่าวคราวว่า Nissan ประเทศไทย คงจะถอดใจกับ Note e-Power ไปแล้ว เนื่องจากต้องการดันให้ e-Power เข้าหลักเกณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า EV แต่ในความเป็นจริงรถที่มีเครื่องยนต์ไม่สามารถเข้าหลักเกณฑ์รถ EV ได้ ถึงแม้ e-Power จะใช้เครื่องยนต์ในการปั่นไฟ ไม่ได้ขับเคลื่อนก็ตาม แต่มีการปล่อย CO2 จึงไม่เข้าหลักเกณฑ์ดังกล่าว